ทบทวนหลักกฎหมายหัวข้อร้องสอด อิ__อิ
บุคคลภายนอกที่มิใช่คู่ความอาจเข้ามาเป็นคู่ความในคดีได้ด้วยการร้องสอด ว.1
1.ผู้ที่จะร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีได้จะต้องเป็นบุคคลภายนอก มิใช่คู่ความในคดีเดิม เช่นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสอง ต่อมาโจทก์ทิ้งฟ้องจำเลยคนหนึ่ง ศาลชั้นต้นจำหน่ายคดี โจทก์มีสิทธิขอให้เรียกจำเลยคนนั้นเข้ามาในคดีได้ เพราะถือว่าจำเลยที่ศาลจำเลยคดีเป็นบุคคลภายบอก มิใช่คู่ความในคดีอีก.
ฎ.5463/2534 การเข้ามาเป็นคู่ความโดยการร้องสอดตาม ม.57 ไม่ว่าจะเป็นการขอเข้ามาเองหรือถูกหมายเรียกเข้ามา ผู้ที่จะเข้ามาต้องเป็นบุคคลภยนอกคดี จำเลยที่ 1 ซึ่งจำเลยที่ 2 ขอให้เรียกเข้ามาเป็นคู่ความอยู่ในคดีแล้ว การที่จำเลยที่ 1 ขาดนัดพิจารณาและขาดนัดยื่นคำให้การ แต่โจทก์ยังดำเนินคดีแก่จำเลยที่ 1 ต่อไป จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นบุคคลภายนอกที่จำเลยที่ 2จะเรียกเข้ามาโดยการร้องสอดตาม 57(3) ได้
2.คดีที่จะร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความได้ ต้องมีคำฟ้องเดิมซึ่งโจทก์มีอำนาจฟ้องโดยสมบูรณ์ตามกฎหมาย หากฟ้องเดิมโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเท่ากับไม่มีคดีที่จะร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความได้ กล่าวคือ การร้องสอดเข้ามาเป็นคู่ความในคดีจะต้องอยู่ในบังคับของมาตรา 55 คือต้องถูกโต้แย้งสิทธิเสียก่อน และ ต้องผ่านการแก้ไขข้อบกพร่องของบุคคลตามมาตรา 56 ก่อนจ้า
ฎ.1050/2493 บุตรฟ้องเรียกที่นาของบิดาคืนอ้างว่าเป็นทายาท เมื่อปรากฏว่าบิดายังมีชีวิตอยู่ อำนาจฟ้องของโจทก์ย่อมหมดไป บิดาจะขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมไม่ได้ เพราะไม่มีฟ้องเดิมที่สมบูรณ์จะเข้ามาเป็นโจทก์ร่วม
3.การที่ศาลจะอนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาเป็นคู่ความในคดีได้หรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาลสุดแล้วแต่คำร้องนั้นมีเหตุสมควรเพียงใด เช่นผู้ร้องทราบการฟ้องคดีมาตั้งแต่แรก แต่ก็มิได้ร้องสอดเข้ามาในคดีทันที เพิ่งร้องสอดเข้ามาหลังจากโจทก์ฟ้องคดีได้ 5ปีเศษ จนได้มีการสืบพยานโจทก์ได้เสร็จสิ้นแล้ว โดยสืบพยานของโจทก์ทั้งหมด 14 นัด พยานจำเลยก็สืบทั้งหมดรวม 29 นัด จวนจะเสร็จสิ้นพยานจำเลยอยู่แล้ว จึงไม่สมควรจะอนุญาตให้ร้องสอดเข้ามาในคดีเพราะจะทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลเพิ่มความยุ่งยากขึ้น **ศาลอาจสั่งให้ไปฟ้องในในอีกคดีนึงก็ได้นะจ้ะ
4.การอนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้ามาในคดีต้องถือตามสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายของผู้ร้องสอดว่าจะเข้ามาได้ตามอนุมาตราใด กล่าวคือคำร้องสอดที่บุคคลภายนอกยื่นต่อศาลต้องกล่าวว่าร้องสอดเข้ามาเพราะเหตุใดและจะระบุว่าเข้ามาตามมาตรา 57 อนุมาตราใดด้วยก็ได้ แต่เป็นหน้าที่ของศาลจะต้องปรับบทกฎหมายให้ถูกต้อง มิใช่ต้องถือตามที่ระบุมาโดยเด็ดขาดตามคำร้อง ถ้าขอร้องสอดเข้ามาตามมาตรา 57 อนุ2 ซึ่งผิดพลาดไป ที่ถูกเป็นกรณี ตามมาตรา 57อนุ 1 ศาลปรับบทให้ถูกต้องโดยถือว่าเป็นการร้องสอดตามมาตรา 57 อนุ 1ได้
ฎ 5530/2533 โจทก์ฟ้องให้จำเลยรื้อถอนห้องแถวและขนย้ายทรัพย์สินกับบริวารและใช้ค่าเสียหาย ผู้ร้องสอดยื่นคำร้องว่า ห้องแถวเป็นของผู้ร้องสอด ซึ่งแม้คำร้องจะขอเข้ามาเป็นคู่ความร่วม แต่เนื้อหาแห่งคำร้องเป็นการขอเข้ามาเป็นคู่ความตามมาตรา 57 อนุ 1 ศาลย่อมพิจารณาคำร้องสอดตามเนื้อหาที่ปรากฏได้
5.ต้องมีคดีค้างอยู่ในการพิจารณาของศาลก่อน จึงจะมีการร้องสอดได้ ถ้าคดีนั้นศาลยกฟ้อง หรือจำหน่ายออกจากศาลระบบแล้ว จึงไม่ถือว่ามีคดีค้างอยู่ในการพิจารณาของศาล ศาลอาจสั่งไม่รับคำร้องขอของผู้ร้องได้
ฎ.5383/2534 ตามคำร้องเป็นเรื่องผู้ร้องร่วมทั้งสองประสงค์จะเข้ามาเป็นคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1) ซึ่งกฎหมายดังกล่าวบัญญัติให้บุคคลภายนอกร้องขอเข้าเป็นคู่ความได้โดยยื่นคำร้องขอต่อศาลที่คดีนั้นอยู่ในระหว่างพิจารณา เมื่อปรากฏว่าในวันที่ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความนั้นศาลชั้นต้นได้สั่งยกคำร้องของผู้ร้องไปแล้ว จึงไม่มีคดีของผู้ร้องที่ผู้ร้องร่วมทั้งสองจะเข้ามาเป็นคู่ความได้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นในขณะ ที่ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องขอ ดังนั้นศาลจึงชอบที่จะสั่งไม่รับคำร้องขอของผู้ร้องร่วมทั้งสองได้.
เดี๋ยวมาต่อ .. ไปเรียนก่อน 55
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น