การเป็นนักศึกษากฎหมายมีทั้งข่าวดีมากและข่าวดีน้อยอยู่เสมอๆ จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไรนัก..หากผมได้รับข่าวดี(น้อย). โดยมากผมเป็นคนที่ค่อนข้างactiveกับเรื่องราวต่างๆที่โชคชะตาโยนเข้ามาในชีวิตตลอด ส่งผลให้ข่าวดีน้อยที่ผมได้รับทำให้ผมผิดหวังมาก
หลังจากสบถความคิดที่ค่อนข้างเชอเรียลของตัวเองอยู่ร่ำไป เมื่อวานนี้ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมเด็กพิการ(ตาบอดหรืออาจมีการซ้ำซ้อน)ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดจากการที่ผมได้ไปเข้าค่ายอบรมคุณธรรมจริยธรรมที่วัดมกุฎคีรีวัน(วัดบนเขาใหญ่อากาศดีมากๆ) ผมย่างเท้าเดินทางจากวัดที่ตั้งอยู่.มาหยุดที่หน้าโรงเรียนดังกล่าวในระหว่างที่เพื่อนๆกำลังจะกลับ ทำให้ผมได้มีโอกาสเข้าไปหาน้องๆอย่างง่ายดาย โรงเรียนสอนคนตาบอดแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่เพิ่งเปิดใหม่จึงมีนักเรียนค่อนข้างจำกัดแม้จะมีนักเรียเพียงน้อยนิด แต่บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความรักกลับมากล้นเหลือเกิน บรรยากาศรอบๆเป็นภูเขา มีลำธาร มีอากาศที่ดีตลอดแทบทั้งวัน มีพี่ๆที่ดูแลที่น่ารักและพร้อมที่จะดูแลเด็กๆเหล่านี้อย่างเต็มใจ
ในขณะที่การดูtvร่วมกันในครอบครัวนั้นถูกแทนค่าด้วยการหลบมุม ต่างคนต่างจดจ่อกับสถานะทางหน้าจอสี่เหลี่ยม ความต่างของความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็ยิ่งขาดช่วงลงทุกครั้งๆ ความสัมพันธ์นั้นถูกแทนค่าไปด้วยมายาคติในโลกโซลเชียลต่างๆมาสนับสนุนไม่ขาดสายและมันคงไม่มีวันเสื่อมคลายไปง่ายๆ แต่เด็กๆเหล่านี้อยู่ในโลกที่ความเชื่อเหล่านี้ไม่ส่งผลอะไรต่อชีวิตพวกเขาเลย หน้าจอสี่เหลี่ยมในโลกพวกเขาแตกต่างจากเราอย่างสิ้นเชิง
:สารภาพตามตรงว่าผมเพิ่งเคยเห็นเด็กพิการจริงๆโดยไม่ผ่านทีวีหรือสื่อต่างๆเป็นภาพที่ผมได้รับจากสายตาและความรู้สึกที่"จริง"มากๆ.ผมเคยเห็นครอบครัวที่เพียบพร้อมมีพ่อแม่ลูกๆที่น่ารักเป็นครอบครัวในฝันของใครหลายๆคน ในวันนี้ผมได้มองคนเหมือนกันแต่จุดที่อยู่นั้นต่างกันลิบลับ"น้องกะเย่ง"ที่ผมเห็นในโรงเรียนฯเป็นเด็กลาว100%ผมเพิ่งมารู้เมื่อหลวงพ่อได้เล่าให้ฟังในวันสุดท้ายของการเข้าค่ายคุณธรรมฯว่าน้องเขาถูกระเบิดเมื่ออายุได้ขวบครึ่ง และตอนนี้ได้มีชาวฝรั่งเศษได้รับเป็นบุตรบุญธรรมแล้ว สังเกตใบหน้าที่ศัลยกรรมมาแล้วของน้อง ยังมีท่อเล็กๆซึ่งผมไม่ทราบว่าเป็นท่ออะไรอยู่ที่จมูก ผมได้คุยกับพี่ที่ดูแลถึงอนาคตของน้องๆพวกนี้เล็กน้อย จากนั้นก่อนกลับผมสะดุดตาเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่อย่างแปลกแยก ขณะที่เอามือกำลังคลำหาอะไรสักอย่างเหมือนกับเป็นของเล่น..น้ำตาผมไหล โลกที่มืดมิดแค่ร่างกาย แต่จิตใจนั้นเปิดรับทุกอย่างของเด็กๆมันทำให้ผมมองย้อนกลับมาดูตัวเองและใคร่ครวญถึงตัวเองว่าผมนั้นแม้จะร้องไห้และเสียใจหรือเห็นใจเด็กๆนั้นสักเท่าไร คงไม่เพียงพอ 1 2 หรือสิบๆปี อาจไม่ถึงผมก็อาจลืมเรื่องของเด็กๆเหล่านั้นแล้ว แต่เด็กพวกนั้นจะอยู่แบบนี้ตลอดชีวิต น้องๆที่โรงเรียนฯเขาเดินนำผมไปแล้วหนึ่งก้าวเพราะเขากล้าที่จะเดินออกมาสู่โลกใบใหม่ แม้ว่าโลกใบเดิมของเขาจะมืดมิดสักเท่าไรก็ตาม ผมจะก้าวต่อไป น้องๆรอพี่ก่อนนะ!
/เด็กผู้หญิงคนนั้นชื่อน้องจ๊ะจ๋า น้ำทิพย์ อาภาษา
/ขอบคุณน้องๆทุกคน
/ขอบคุณน้องๆทุกคน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น