น่าเชื่อว่าการที่โอกาสดีๆไม่ว่าจะเรื่องการงาน เรียนฯเป็นเรื่องของ"จังหวะชีวิต"
ต้องยอมรับอย่างเปิดอกเลยว่าผมค่อนข้างอินโนเซ้นต์ในเรื่องของโชคชะตา ดวง หรือฮวงซุ้ยที่เหมาะสมอันนำมาซึ่งความเป็นอยู่ที่ดีหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ มโนทัศน์ในมุมของผมคือหากชีวิตของเรานั้นถูกกำหนดมาตั้งแต่แรกให้เป็นไปตามวิถีทางของมัน แล้วทำไมถึงต้องมีเสาะหาวิธีเพื่อหยั่งรู้เหตุการณ์ในอนาคต อาจเพราะว่าเราจะได้ตระหนักถึงการดำรงอยู่ เพื่อปรับปรุงแก้ไขอะไรหลายๆอย่างหากเรารับรู้ถึงอนาคต แต่ถึงเราจะรู้ว่าอนาคตเป็นเช่นไร เราก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรมันได้อยู่ดี เพราะชีวิตถูกกำหนดมาตั้งแต่แรก
ต้องยอมรับอย่างเปิดอกเลยว่าผมค่อนข้างอินโนเซ้นต์ในเรื่องของโชคชะตา ดวง หรือฮวงซุ้ยที่เหมาะสมอันนำมาซึ่งความเป็นอยู่ที่ดีหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ มโนทัศน์ในมุมของผมคือหากชีวิตของเรานั้นถูกกำหนดมาตั้งแต่แรกให้เป็นไปตามวิถีทางของมัน แล้วทำไมถึงต้องมีเสาะหาวิธีเพื่อหยั่งรู้เหตุการณ์ในอนาคต อาจเพราะว่าเราจะได้ตระหนักถึงการดำรงอยู่ เพื่อปรับปรุงแก้ไขอะไรหลายๆอย่างหากเรารับรู้ถึงอนาคต แต่ถึงเราจะรู้ว่าอนาคตเป็นเช่นไร เราก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรมันได้อยู่ดี เพราะชีวิตถูกกำหนดมาตั้งแต่แรก
หากชีวิตไม่ได้ถูกกำหนดมาตั้งแต่แรกละ อันนี้ยิ่งวิเคราะห์ง่ายเข้าไปใหญ่ เราไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะไปพูดถึงเรื่องของ"ดวง" เช่นวันนี้เราอยากรู้ว่าดวงเราดีหรือเปล่า จะพบเจอเนื้อคู่ไหม? ถ้าคำตอบคือ วันนี้"ดวงดี" ... แล้วเราจะสามารถเชื่อมันได้อย่างไร ในเมื่อชีวิตไม่ได้ถูกกำหนดมานี่นา มันอาจจะเขวไปในทางใดทางหนึ่งก็ได้ แน่นอนอย่างที่สุดว่ามันไม่แน่นอน
ในส่วนตัวของผมแล้ว ผมไม่แคร์ว่าชีวิตจะถูกกำหนดมาแล้วหรือไม่ได้กำหนด แต่ผมเชื่อในการจัดวางชีวิตของตัวเองให้เข้ากับกงล้อ(ที่ผมชอบเปรียบเทียบกับกงล้อเพราะกงล้อเป็นสัญลักษณ์ของการหมุนซ้ำๆ)ของอะไรสักอย่างที่มันมีลักษณะที่น่าจะไขว่คว้าถึงการเป็นไป หากการจัดวางชีวิตแบบโหลๆคงประหนึ่งว่า"หากคุณเอาภาพวาดของเด็กหญิงสามขวบที่สุดแสนจะเห่ย แต่ทว่าในภาพวาดนั้นกลับมีลายเซ็นของวินเซนต์ แวนโก๊ะประดับไว้ที่ภาพ นั่นจะทำให้ภาพวาดนั้นดูมีคุณค่าขึ้นมาทันทีทันใด"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น